วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural Unfoldment)


ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural Unfoldment)

บุญเลี้ยง ทุมทอง (2554:23) กล่าวไว้ว่า ทฤษฎีนี้มีประโยชน์ต่อการศึกษา การจัดการศึกษาให้กับเด็กมีความแตกต่างจากผู้ใหญ่ และสิ่งที่มีความหมายมากคือ แนวคิดที่ว่าเด็กที่มีอายุน้อยๆ จะเรียนรู้ได้ดีที่สุด จากกิจกรรมการใช้สื่อรูปธรรม (Ginsburj & Opper , 1969)หากแนวคิดนี้ถูกนำไปใช้ในห้องเรียนและแนะนำผู้เรียนมากกว่าเป็นผู้สอน โดยตรงตามทฤษฎีของเพียเจต์ (Piaget'sTheoryofIntellectual Developement) 

ทิศนา แขมมณี (2550) กล่าวไว้ว่า
                         เพสตาลอสซี มีความเชื่อว่า คนมีธรรมชาติปนกันใน 3 ลักษณะ คือคนสัตว์ ซึ่งมีลักษณะเปิดเผยเป็นทาสของกิเลส คนสังคม มีลักษณะที่จะเข้ากับสังคมคล้อยตามสังคม และ คนธรรม ซึ่งมีลักษณะของการรู้จักรับผิดชอบชั่วดี คนจะต้องมีการพัฒนาใน 3 ลักษณะดังกล่าว
                  ฟรอเบล เชื่อว่า การเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก และควรจะให้การศึกษาชั้นอนุบาลแก่เด็กเล็กอายุ3-5 ขวบ โดยให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง

                  รุสโซมีความเชื่อว่าธรรมชาติคือแหล่งความรู้สำคัญ เด็กควรจะได้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติคือ การเรียนรู้จากประสบการณ์ทางธรรมชาติ จากผลของการกระทำของตน มิใช่การรเยนจากหนังสือหรือจากคำพูดบรรยาย

http://surinx.blogspot.com/  กล่าวไว้ว่า  นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือรุสโซ (Rousseau) ฟรอเบล (Froebel) และเพสตาลอสซี (Pestalozzi) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อดังนี้
      ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
               1.มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความดีและการกระทำใด  เกิดขึ้นจากแรงกระตุ้นภายในตัวมนุษย์เอง (good - active)
               2.ธรรมชาติของมนุษย์มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง หากได้รับเสรีภาพในการเรียนรู้ มนุษย์ก็จะสามารถพัฒนาตนเองไปตามธรรมชาติ
                3.รุสโซมีความเชื่อว่าเด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก  เด็กมีสภาวะของเด็ก ซึ่งแตกต่างไปจากวัยอื่น การจัดการศึกษาให้เด็กจึงควรพิจารณาระดับอายุเป็นหลัก
               4.รุสโซเชื่อว่าธรรมชาติคือแหล่งความรู้สำคัญเด็กควรจะได้เรียนรู้ ไปตามธรรมชาติ คือการเรียนรู้จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จากผลของการกระทำของตน มิใช่การเรียนจากหนังสือหรือจากคำพูดบรรยาย
              
5.เพสตาลอสซีมีความเชื่อว่า คนมีธรรมชาติปนกันใน 3 ลักษณะ คือ คนสัตว์ ซึ่งมีลักษณะเปิดเผย เป็นทาสของกิเลส คนสังคม มีลักษณะที่จะเข้ากับสังคม คล้อยตามสังคม และคนธรรม ซึ่งมีลักษณะของการรู้จักผิดชอบชั่วดี คนจะต้องมีการพัฒนาใน 3 ลักษณะ ดังกล่าว
            6.เพสตาลอสซีเชื่อว่าการใช้ของจริงเป็นสื่อในการสอน จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี
            7.ฟรอเบลเชื่อว่าควรจะให้การศึกษาชั้นอนุบาลแก่เด็กเล็ก อายุ 3 – 5 ขวบ โดยให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง
            8.ฟรอเบลเชื่อว่าการเล่นเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญของเด็ก

      หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1.การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้แก่เด็กจะต้องมีความแตกต่างไปจากการจัดให้ผู้ใหญ่เนื่องจากเด็กมีสภาวะที่ต่างไปจากวัยอื่น 
 2.การจัดการศึกษาให้แก่เด็กควรยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ให้เสรีภาพแก่เด็กที่จะเรียนรู้ตามความต้องการและความสนใจของตน เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้อย่างอิสระ
3.ลักษณะการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก คือการจัดให้เด็กได้เรียนรู้จากธรรมชาติและเป็นไปตามธรรมชาติ ได้แก่
3.1 ให้เด็กได้เล่นอย่างอิสระ
3.2 ให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง
3.3 ให้เด็กได้เรียนจากของจริงและประสบการณ์จริง
3.4 ให้เด็กได้เรียนรู้จากผลของการกระทำของตน
4.การจัดประสบการณ์เรียนรู้ให้เด็กจะต้องคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและความพร้อมของเด็ก


สรุป
     ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการพัฒนาไปตามธรรมชาติ (Natural Unfoldment) ธรรมชาติ คือแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ เพราะการใช้ของจริงที่เป็นรูปธรรมในการเรียนรู้นั้น สามารถที่จะให้เด็กนั้นเข้าใจได้ง่าย เรียนรู้ได้ดี การจัดการศึกษาควรจัดการศึกษาให้เด็ก ควรพิจารณาจากระดับอายุเป็นหลัก ยึดให้เด็กเป็นศูนย์กลาง ให้เสรีภาพแก่เด็ก เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ถึงความต้องการและความสนใจของตน ให้เรียนรู้ไปตามธรรมชาติ
      
แหล่งอ้างอิง

บุญเลี้ยง ทุมทอง. (1/2554). การวิจัยการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์.มหาสารคาม:โรงพิมพ์สหบัณฑิต.

ทิศนา แขมมณี.2550. การสอนจิตวิทยาการเรียนรู้ เรื่องศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

http://surinx.blogspot.com/ (ออนไลน์) เข้าถึงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น