รูปแบบการวิจัย (Research
Design)
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. (2533 : 16). กล่าวไว้ว่า รูปแบบการวิจัย (Research
Design) เป็นการสำรวจให้ทราบว่าประเด็นปัญหาในทำนองที่สนใจนั้นมีใครทำวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวแปรที่ศึกษามีอะไรบ้าง
มีการควบคุมตัวแปรภายนอกอย่างไร มีอะไรบ้างเป็นประชากร
สุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการอย่างไร เก็บรวบรวมข้อมูล
และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร ใช้สถิติอะไรบ้าง
เรืองอุไร ศรีนิลทา. (2535 : 228). กล่าวไว้ว่า รูปแบบการวิจัยจะต้องมีรูปแบบ (format) ตามที่หน่วยงานที่กำกับการดำเนินงานวิจัยหรือองค์กรที่จะตีพิมพ์งานวิจัยออกเผยแพร่กำหนด รูปแบบของการวิจัย เป็นแนวทางโดยทั่วไปของการจัดรายละเอียดให้เป็นหมวดหมู่และการเรียงลำดับรายละเอียดของงานวิจัยนั้น รูปแบบของการเขียนรายงานวิจัยที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีอยู่มากมาย โดยปกติหน่วยงานที่กำกับการดำเนินงานวิจัยแต่ละหน่วยงานรวมทั้งองค์กรที่ตีพิมพ์รายงานการวิจัยออกเผยแพร่แต่ละองค์กรด้วยจะกำหนดรูปแบบของรายงานวิจัยนั้นขึ้น เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายถือปฏิบัติ ฉะนั้นก่อนที่จะเริ่มเขียนรายงานวิจัย
ผู้วิจัยจึงจำเป็นต้องศึกษารูปแบบของรายงานการวิจัยที่หน่วยงานกำกับการดำเนินงานวิจัยของตน
และองค์กรที่ตนประสงค์จะให้ตีพิมพ์รายงานวิจัยของตนออกเผยแพร่
กำหนดและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้กับรายละเอียดที่สำคัญต่างๆของรูปแบบนั้น แล้วปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการเขียนรายงานวิจัย
ไพศาล หวังพานิช. (2531 : 80). กล่าวไว้ว่า รูปแบบการวิจัย
เป็นแบบการวิจัยจะช่วยให้ผู้วิจัยสามารถหาคำตอบของปัญหาที่ต้องการศึกษาค้นคว้าได้อย่างถูกต้องแบบการวิจัยมีหลายแบบด้วยกันซึ้งมีตั้งแต่แบบที่ง่ายไปจนถึงแบบที่สลับซับซ้อนการที่ผู้วิจัยจะเลือกใช้แบบใดนั้นขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการศึกษาต้องการคำตอบในเรื่องใดบ้างลึกซึ่งแค่ไหน
สรุป
รูปแบบการวิจัย (Research
Design) จะต้องมีรูปแบบ (format) ตามที่หน่วยงานที่กำกับการดำเนินงานวิจัยหรือองค์กรที่จะตีพิมพ์งานวิจัยออกเผยแพร่กำหนด
รูปแบบของการวิจัย เป็นแนวทางโดยทั่วไปของการจัดรายละเอียดให้เป็นหมวดหมู่
และการเรียงลำดับรายละเอียดของงานวิจัยนั้นโดยปกติหน่วยงานที่กำกับการดำเนินงานวิจัยแต่ละหน่วยงาน
รวมทั้งองค์กรที่ตีพิมพ์รายงานการวิจัยออกเผยแพร่แต่ละองค์กรด้วย
จะกำหนดรูปแบบของรายงานวิจัยนั้นขึ้น เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายถือปฏิบัติ ฉะนั้นก่อนที่จะเริ่มเขียนรายงานวิจัย
ผู้วิจัยจึงจำเป็นต้องศึกษารูปแบบของรายงานการวิจัยที่หน่วยงานกำกับการดำเนินงานวิจัยของตนและองค์กรที่ตนประสงค์จะให้ตีพิมพ์รายงานวิจัยของตนออกเผยแพร่ กำหนดและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้กับรายละเอียดที่สำคัญต่างๆของรูปแบบนั้น แล้วปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการเขียนรายงานวิจัย
แหล่งอ้างอิง
บุญธรรม
กิจปรีดาบริสุทธิ์. (2533). การวิจัย
การวัดและประเมินผล. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ศรีอนันต์.
เรืองอุไร ศรีนิลทา. (2535). ระเบียบวิธีวิจัย. กรุงเทพฯ : สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ไพศาล หวังพานิช.วิธีการวิจัย. กรุงเทพฯ :
งานส่งเสริมวิจัยและตำรากองบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น