วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

รูปแบบการวิจัย (Research Design)


รูปแบบการวิจัย (Research Design)
      
                บุญธรรม  กิจปรีดาบริสุทธิ์. (2533 : 16).  กล่าวไว้ว่า รูปแบบการวิจัย (Research Design) เป็นการสำรวจให้ทราบว่าประเด็นปัญหาในทำนองที่สนใจนั้นมีใครทำวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวแปรที่ศึกษามีอะไรบ้าง มีการควบคุมตัวแปรภายนอกอย่างไร มีอะไรบ้างเป็นประชากร สุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการอย่างไร เก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร ใช้สถิติอะไรบ้าง

                เรืองอุไร  ศรีนิลทา. (2535 : 228).  กล่าวไว้ว่า รูปแบบการวิจัยจะต้องมีรูปแบบ (format) ตามที่หน่วยงานที่กำกับการดำเนินงานวิจัยหรือองค์กรที่จะตีพิมพ์งานวิจัยออกเผยแพร่กำหนด   รูปแบบของการวิจัย เป็นแนวทางโดยทั่วไปของการจัดรายละเอียดให้เป็นหมวดหมู่และการเรียงลำดับรายละเอียดของงานวิจัยนั้น รูปแบบของการเขียนรายงานวิจัยที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีอยู่มากมาย  โดยปกติหน่วยงานที่กำกับการดำเนินงานวิจัยแต่ละหน่วยงานรวมทั้งองค์กรที่ตีพิมพ์รายงานการวิจัยออกเผยแพร่แต่ละองค์กรด้วยจะกำหนดรูปแบบของรายงานวิจัยนั้นขึ้น เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายถือปฏิบัติ ฉะนั้นก่อนที่จะเริ่มเขียนรายงานวิจัย ผู้วิจัยจึงจำเป็นต้องศึกษารูปแบบของรายงานการวิจัยที่หน่วยงานกำกับการดำเนินงานวิจัยของตน และองค์กรที่ตนประสงค์จะให้ตีพิมพ์รายงานวิจัยของตนออกเผยแพร่  กำหนดและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้กับรายละเอียดที่สำคัญต่างๆของรูปแบบนั้น  แล้วปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการเขียนรายงานวิจัย

                ไพศาล  หวังพานิช. (2531 : 80).  กล่าวไว้ว่า รูปแบบการวิจัย เป็นแบบการวิจัยจะช่วยให้ผู้วิจัยสามารถหาคำตอบของปัญหาที่ต้องการศึกษาค้นคว้าได้อย่างถูกต้องแบบการวิจัยมีหลายแบบด้วยกันซึ้งมีตั้งแต่แบบที่ง่ายไปจนถึงแบบที่สลับซับซ้อนการที่ผู้วิจัยจะเลือกใช้แบบใดนั้นขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการศึกษาต้องการคำตอบในเรื่องใดบ้างลึกซึ่งแค่ไหน

สรุป
                รูปแบบการวิจัย (Research Design) จะต้องมีรูปแบบ (format) ตามที่หน่วยงานที่กำกับการดำเนินงานวิจัยหรือองค์กรที่จะตีพิมพ์งานวิจัยออกเผยแพร่กำหนด รูปแบบของการวิจัย เป็นแนวทางโดยทั่วไปของการจัดรายละเอียดให้เป็นหมวดหมู่ และการเรียงลำดับรายละเอียดของงานวิจัยนั้นโดยปกติหน่วยงานที่กำกับการดำเนินงานวิจัยแต่ละหน่วยงาน รวมทั้งองค์กรที่ตีพิมพ์รายงานการวิจัยออกเผยแพร่แต่ละองค์กรด้วย จะกำหนดรูปแบบของรายงานวิจัยนั้นขึ้น เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายถือปฏิบัติ ฉะนั้นก่อนที่จะเริ่มเขียนรายงานวิจัย ผู้วิจัยจึงจำเป็นต้องศึกษารูปแบบของรายงานการวิจัยที่หน่วยงานกำกับการดำเนินงานวิจัยของตนและองค์กรที่ตนประสงค์จะให้ตีพิมพ์รายงานวิจัยของตนออกเผยแพร่  กำหนดและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้กับรายละเอียดที่สำคัญต่างๆของรูปแบบนั้น แล้วปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการเขียนรายงานวิจัย

แหล่งอ้างอิง
                บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์. (2533).  การวิจัย การวัดและประเมินผล. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ศรีอนันต์.
                เรืองอุไร ศรีนิลทา. (2535). ระเบียบวิธีวิจัย.  กรุงเทพฯ : สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
                ไพศาล หวังพานิช.วิธีการวิจัย.  กรุงเทพฯ : งานส่งเสริมวิจัยและตำรากองบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น